วันพุธที่ 24 ธันวาคม พ.ศ. 2551

หน้าที่ผู้พิพากษาสมทบและแนวทางการคัดเลือก



แนะนำศาลเยาวชนและครอบครัวแบ่งงานออกเป็น 2 ฝ่าย ได้แก่
1. ฝ่ายตุลาการ มีผู้พิพากษาประจำ และผู้พิพากษาสมทบ ซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับ การพิจารณาพิพากษา คดีที่อยู่ในเขตอำนาจผู้พิพากษาศาลเยาวชนและครอบครัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งจากข้าราชการตุลาการสามัญตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการซึ่งมีอัธยาศัยและความประพฤติเหมาะสม ที่จะปกครองและอบรมสั่งสอนเด็กและเยาวชนผู้พิพากษาสมทบ คือ บุคคลธรรมดาซึ่งได้รับการคัดเลือกตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ กำหนดในกฎกระทรวงและมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งโดยมี ีอำนาจหน้าที่เป็นองค์คณะพิจารณาพิพากษาคดีเด็กและเยาวชน ในคดีอาญาและคดีครอบครัวกฎหมายอื่นที่ถือเป็นความผิดอาญา ร่วมกับผู้พิพากษาประจำ ซึ่ง จะต้องมีคุณสมบัติดังนี้1. มีอายุไม่น้อยกว่า 30 ปีบริบูรณ์2. มีหรือเคยมีบุตรมาแล้ว หรือเคยทำงานเกี่ยวกับการสงเคราะห์หรืออบรมเด็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี3. ได้รับการอบรมในเรื่องความมุ่งหมายของศาลเยาวชนและครอบครัว และหน้าที่ ตุลาการมาแล้วตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง4. มีคุณสมบัติที่จะเป็นข้าราชการพลเรือน หรือข้าราชการฝ่ายตุลาการสามัญได้ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการพลเรือน หรือกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ เว้นแต่ในเรื่องพื้นความรู้ให้เป็นไปตามที่กำหนดในกฎกระทรวง ซึ่งขณะนี้กำหนดพื้นความรู้อย่างน้อยชั้น ม.6 หรือ ม.ศ.3 (ตามหลักสูตรเดิม) นอกจากนี้แล้วบุคคลที่จะได้รับแต่งตั้งเป็นผู้พิพากษาสมทบ ต้องมิใช่ข้าราชการประจำ ข้าราชการเมือง สมาชิกรัฐสภา หรือทนายความ ผู้พิพากษาสมทบดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี แต่จะทราบพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งผู้ที่พ้นจากตำแหน่งไปแล้วให้ดำรงตำแหน่งต่อไปอีกก็ได้
2. ฝ่ายธุรการ มีผู้อำนวยการศาลและข้าราชการธุรการของศาล ทำหน้าที่เกี่ยวกับงานด้านธุรการของศาลทั่วไปขอบเขตอำนาจของศาลเยาวชนและครอบครัว- ศาลเยาวชนและครอบครัวกลางมีเขตอำนาจตลอดท้องที่กรุงเทพมหานคร- สำหรับศาลเยาวชนและครอบครัวในส่วนภูมิภาคนั้นมีเขตอำนาจตลอดท้องที่ของจังหวัดที่เป็นที่ตั้งของศาลเยาวชนและครอบครัว- แผนกคดีเยาวชนและครอบครัวในศาลจังหวัดมีเขตอำนาจเช่นเดียวกับศาลที่ตั้งแผนกคดีเยาวชนและครอบครัวนั้น


ม.26 ผู้พิพากษาสมทบจะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯแต่งตั้งจากบุคคลซึ่งคณะกรรมการตุลาการ หรือเรียกย่อว่า ก.ต.
คัดเลือกตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง และต้องมีคุณสมบัติ

(1) มีอายุไม่น้อยกว่า 30 ปีบริบูรณ์

(2) มีหรือเคยมีบุตรมาแล้ว หรือเคยทำงานเกี่ยวข้องกับการสงเคราะห์หรือการกอบรมเด็กมาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี

(3) ได้รับการอบรมในเรื่องความมุ่งหมายของศาลเยาวชนและครอบครัวและหน้าที่ตุลาการมาแล้วตามหลักเกณฑ์
และวิธีการที่กำหนดในกฎกระทรวง

(4) มีคุณสมบัติที่จะเป็นข้าราชการธุรการได้ตามกฎหมายว่าด้วยระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ และมีพื้นความรู้ไม่ต่ำกว่า
ประกาศนียบัตรประโยคมัธยมศึกษาตอนต้นสายสามัญ หรือที่กระทรวงศึกษาธิการรับรอง

(5) ไม่เป็นข้าราชการประจำ ข้าราชการการเมือง สมาชิกรัฐสภา หรือทนายความ

(6) มีอัธยาศัยและความประพฤติเหมาะสมแก่การพิจารณาคดีเยาวชนและครอบครัว



ผู้พิพากษาสมทบ ดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี

ผู้พิพากษาสมทบ เป็นเจ้าพนักงานในตำแหน่งตุลาการตาม ประมวลกฎหมายอาญา

ไม่มีความคิดเห็น: